รู้ไหมว่า?

• 60%ที่พื้นสกปรก เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย
• โต๊ะทำงานเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย มากกว่าในห้องครัวและห้องน้ำ 400 เท่า
• คีย์บอร์ด เก้าอี้และเมาส์คอมพิวเตอร์นั้นมีเชื้อโรคถึง 21,000 ตัวต่อขนาดพื้นที่ตารางนิ้ว

ออฟฟิศที่สะอาดและเป็นระเบียบจะช่วยเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และลดวันลาป่วยได้! ออฟฟิศที่สกปรก ไม่เพียงแต่ดูไม่เป็นมืออาชีพ แต่ยังมีสถิติบอกอีกว่า พนักงานจะขาดแรงจูงใจในการทำงานเลยทีเดียว

แค่พื้นที่ในห้องหรือคอนโด ก็มีหลายอย่างมากมายที่จะต้องทำ ที่ปวดหัวไม่แพ้กัน ก็คือการทำความสะอาดออฟฟิศ หรือสำนักงาน พนักงานออฟฟิศหลายคนรู้ว่า มันสำคัญและจำเป็น แต่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของเรา และพื้นที่ของออฟฟิศค่อนข้างกว้าง ซึ่งเราสามารถทำให้ออฟฟิศของเราสดชื่นและเป็นระเบียบได้อย่างง่ายๆ โดยการทำลิสต์รายการเบื้องต้นว่า “มีรายการใดบ้างที่จะต้องทำความสะอาด”

ทำไมต้องมี Checklist?

Checklist คือรายการสำหรับตรวจสอบความเรียบร้อย การทำเช็คลิสต์สำหรับการตรวจสอบจะช่วยให้สามารถลำดับความสำคัญในการทำความสะอาดออฟฟิศได้ง่ายขึ้น ไม่พลาดทุกจุดสำคัญที่ต้องทำความสะอาด

1.จัดของบนโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ

ออฟฟิศส่วนใหญ่มักมีเอกสารวางเกลื่อนอยู่เต็มโต๊ะและกระจัดกระจาย โดยเฉพาะแผนกฝ่ายบุคคลและฝ่ายบัญชี รวมทั้งมีอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานที่วางระเกะระกะ ดังนั้นการจัดการเคลียร์เอกสารเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องจัดให้เป็นหมวดหมู่และจัดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย และรักษาโต๊ะให้สะอาดอยู่เสมอ ส่วนของใช้ส่วนตัวที่อาจเผลอวางทิ้งไว้ก็นำเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย แค่นี้ก็เพิ่มบรรยากาศให้น่าทำงานมากขึ้น

โต๊ะทำงานถือเป็นสิ่งสกปรกอันดับต้นๆ ของออฟฟิศ หลังจากที่เคลียร์เอกสารแล้ว เพื่อไม่ให้โต๊ะทำงานของเราเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคได้อีก เราควรดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เราสามารถใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูใส่ในขวดสเปรย์ฉีดพรมให้ทั่วโต๊ะทิ้งเอาไว้สัก 5 นาทีก่อนจะใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก ทั้งนี้ถ้าตามโต๊ะมีรอยปากกาติดอยู่ก็สามารถใช้สำลีชุบแอลกอฮอลล์เช็ดให้ออกได้

2.ล้างแก้ว ล้างจาน

การทำความสะอาดถ้วย จาน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในออฟฟิศ เพราะพนักงานส่วนใหญ่มักซื้อพวกอาหารขึ้นมากินในออฟฟิศ หลังกินเสร็จเรียบร้อยจึงจำเป็นต้องทำความสะอาด แต่หากจาน/ชามเหล่านั้นถูกทิ้งไว้ข้ามคืน จะก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย หมักหมมเชื้อโรค จนทำให้จาน/ชามขึ้นเชื้อราได้ หรืออาจมีกลิ่นเน่าบูด ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง และถ้าล้างจานแบบไม่สะอาดและไม่ผึ่งให้แห้งแล้วล่ะก็ แบคทีเรียจะกลับมาใหม่อย่างรวดเร็วอาจมีผลทำให้เราเกิดอาการท้องเสียได้

3. เก็บกวาด/เช็ดพื้นและดูดฝุ่น

ในแต่ละวันเราต่างใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราต้องเผชิญกับเชื้อโรคต่างๆ ที่ทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมงานเป็นพาหะนำมาในทุกๆ วัน เพียงแต่เราไม่เคยนึกถึงเท่านั้นเอง ในออฟฟิศจึงมีฝุ่นสะสมเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นที่มาจากแฟ้ม หนังสือต่างๆ แบคทีเรียตามเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ไหนจะพรมที่ปูพื้นทั่วทั้งออฟฟิศ ไหนจะแอร์เป็น 10 ตัว ที่นานๆ จะล้างซักที ไหนจะรองเท้าของแต่ละคน ที่นำพาเชื้อโรคติดมาจากหลายสถานที่ รวมถึงขยะในแต่ละวัน และความสกปรกอีกมากมายรอบๆ ตัว นี่แหละตัวการที่ทำให้คุณภาพชีวิตและสุขภาพแย่ลงอย่างต่อเนื่องโดยเป็นภัยเงียบที่กัดกินแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แต่ละออฟฟิศสามารถเริ่มจากการทำความสะอาดทุกวัน  ดูดฝุ่นและไรฝุ่น เราสามารถเช็ดฝุ่นบริเวณส่วนกลางด้วยผ้าขี้ริ้ว รวมไปถึงสถานที่ที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น โต๊ะทำงาน ร่องคีย์บอร์ด เป็นต้น

กรณีพื้นออฟฟิศเป็นพื้นแข็ง การถูด้วยผ้าเปียกด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำความสะอาดพื้นผิวแข็ง หากออฟฟิศมีพรม ควรทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง

4. ทำความสะอาดห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ

สุขอนามัยในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของเราและคนรอบข้าง การสร้างสุขอนามัยในห้องน้ำ เป็นวิธีสำคัญวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในออฟฟิศ/สำนักงาน

ห้องน้ำอาจเต็มไปด้วยละอองแบคทีเรีย ปัสสาวะ และอุจจาระ การจัดการกับการสะสมของเชื้อโรค คราบตะกรัน และแบคทีเรียภายในห้องน้ำ สามารถลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรคนี้ได้ ดังนั้นพื้นห้องน้ำในออฟฟิศควรถูทำความสะอาดและทำให้แห้ง ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยวิธีที่ถูกต้อง คอยเติมกระดาษชำระ และตรวจสอบว่าสบู่ล้างมือ หมดแล้วหรือยัง? ตลอดจนมีถังขยะใส่ผ้าอนามัยสำหรับห้องน้ำหญิงโดยเฉพาะ จากการศึกษาพบว่า มีพนักงานถึง 50% ยอมรับว่าออกจากห้องน้ำโดยไม่ได้ล้างมือ เพราะห้องน้ำไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนั้น การสร้างประสบการณ์การใช้ห้องน้ำที่ดี จะช่วยสร้างพฤติกรรมที่ถูกสุขอนามัยให้แก่พนักงานได้