นักวิจัยในอังกฤษ ที่พยายามศึกษาวิจัยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่า ขณะนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้มีการกลายพันธุ์ เป็น 3 สายพันธุ์ที่มีความแตกต่างกันแล้ว ซึ่งถือเป็นการกลายพันธุ์ที่เร็วมาก
ก่อนหน้านี้ ได้มีการกลายพันธุ์ เป็นชนิด A และ ชนิด B ซึ่งถือเป็นพี่น้องกัน และขณะนี้เชื้อได้มีการกลายพันธุ์มาสู่รุ่นลูก คือ ชนิด C โดยเชื้อโควิด-19 ชนิด A มีลักษณะสายพันธุ์ที่มีความใกล้ชิดกับเชื้อไวรัสโคโรนา ที่พบในค้างคาวและตัวนิ่มอย่างมาก จนมีการพิจารณากันว่า สัตว์ทั้งสองชนิดคือต้นตอของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่
จากการวิเคราะห์จีโนม ของเชื้อไวรัสครั้งแรก 160 ชนิดที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งนำมาจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์พบว่า เชื้อโควิดที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับค้างคาวพบในผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ไม่ใช่ในเมืองอู่ฮั่น
นายแพทย์ปีเตอร์ ฟอสเตอร์ นักพันธุกรรมศาสตร์และหัวหน้าคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในอังกฤษ กล่าวว่า เชื้อโควิด-19 มีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จนยากต่อการติดตามแผนภูมิครอบครัวของเชื้อ
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า เชื้อไวรัสโคโรนา ที่เรียกว่า Sars-CoV- 2 มีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังเอาชนะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของมนุษย์ในพื้นที่ที่ประชากรแตกต่างกัน โดยจากการใช้ข้อมูลตัวอย่างที่นำมาจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั่วโลกในครั้งนี้ มีการเก็บข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2562 จนถึง 4 มีนาคม 2563
แหล่งข้อมูลอ้างอิง https://www.thairath.co.th/news/foreign/1817541